เคล็ดลับช่วยลดความอ้วนแบบดีๆ ที่จะทำให้เราลดน้ำหนักไปต่อได้

เพื่อนๆหรือหลายๆ คนที่อยากลดน้ำหนัก สามารถเอาเคล็ดลับที่เราเอามมาฝากไปลองทำได้นะ เคล็ดลับช่วยลดความอ้วนแบบดีๆ เพราะเชื่อว่าเคล็ดลับเล็กๆ ตรงนี้จะช่วยทำให้เพื่อนๆ ลดน้ำหนักหรือลดความอ้วนไปได้ต่อ ละ หรือหากเพื่อนๆ คนไหนที่ลดน้ำหนักมาได้สักพักแล้ว เริ่มลงยากแล้ว ลองเอาเคล็ดลับเราไปทำต่อดูนะ 

-ลองลดโซเดียมหรือรสชาติจัดๆ เอานะ 

การที่เราจะลดน้ำหนักได้ดี การกินรสจัด แบบ เค็มจัดๆ หรือ ชอบกินพวกเครื่องปรุงต่างๆ นั้นจะทำให้เราลดน้ำหนักหรือลดความอ้วนได้ยากกว่าที่คิด เพราะการกินรสชัด จะทำให้ร่างกายเราสะสมโซเดียมเยอะและจะทำให้ร่างกายเราบวมอีกด้วย หากกินเรื่อยๆ ร่างกายก็จะยังคงบวมต่อไป

-ลดน้ำตาลหรือลดหวานลงบ้าง

การที่เราน้ำหนักตัน หรือ ลดความอ้วน ลดน้ำหนักยังไง ก็ไม่ลงแล้วอะ ลดน้ำหนักแล้วเริ่มตันแล้ว เพื่อนๆ ลองสังเกตุตัวเองดูสิว่ายังมีการกินหวานหรือน้ำตาล เกินความจำเป็นหรือเปล่า อย่างวันชีทเด ก็กินชานมไข่มุก บิงซู โทรสต์ ในวันเดียวกันทั้งหมด สาเหตุนี่อาจจะทำให้เราลดน้ำหนักหรือลดความอ้วนได้ยากนะ หากมีชีทเดจริงๆ ต้องพยายามควบคุมน้ำตาลหรือของหวานด้วยนะ

-เน้นการกินผัก เพื่อช่วยระบบขับถ่าย

เพื่อนๆที่อยากผอม หรือ ลดความอ้วน ได้ต้องใส่ใจการกินผักให้มากขึ้นนะ    เครื่องช่วยฟังแบบชาร์จ     เพราะการที่เรากินผักให้มากจะช่วยทำให้เรานั้นมีไฟเบอร์ในร่างกายเยอะขึ้น และการที่เรามีไฟเบอร์เยอะขึ้นจะทำให้ระบบขับถ่ายของเราทำงานได้ดียิ่งขึ้น การที่เราไม่ค่อยขับถ่ายจะทำให้ร่างกายเราสะสมและดูดซึมสิ่งของเสียที่ไม่ได้ขับออกมา ซึ่งไม่ดีต่อร่างกายของเราเลยนะ

-ดื่มน้ำให้มากๆ ด้วย

ใครก็ตามที่ลดน้ำหนักหรือลดความอ้วนมาแต่ไม่ค่อยได้ใส่เรื่องการดื่มน้ำแล้วละก็ เพื่อนๆ พลาดเคล็ดลับที่สำคัญในการลดน้ำหนักหรือลดความอ้วนเลยละ เพราะว่าการที่เราดื่มน้ำมากๆ จะช่วยเรื่องการกระตุ้นระบบขับถ่ายได้ดีเมื่อเรากินไฟเบอร์มากพอ และยังช่วยกระตุ้นระบบต่างๆของร่างกายให้ทำงานได้ดีอีกด้วยนะ 

-นอนน้อยไป ร่างกายไม่ได้รับการฟื้นฟู ต้องหันมาพักผ่อนให้เพียงพอ

การที่เราลดน้ำหนักแล้วตัน มาจากการที่เรานอนน้อย ได้นะ เพราะว่าร่างกายของเรานั้นไม่ได้รับการฟื้นฟูและยังทำให้ระบบเผาผลาญเราทำงานได้ไม่ดี รวมไปถึงจะทำให้เราควบคุมความหิวในวันถัดๆ ไปได้ยากมากขึ้นด้วยนะ

เปลี่ยนร่าง เปลี่ยนหุ่น ต้อนรับร่างกายที่ดีที่สุดของเรากันเถอะ

เปลี่ยนร่าง เปลี่ยนหุ่น  เพื่อนๆและสาวๆ ที่เพิ่งผ่านต้นปีไม่มานาน แต่เผลอกินแบบจุกๆ กินทั้งวันทั้งคืน เฮอา ปาร์ตี้มาตลอด ทั้งที่บ้านทั้งที่ออฟฟิศ พอมาดูตัวเองอีกที ร่างกายเราไปเปลี่ยนเยอะเลยยยย… เพื่อนๆและสาวๆ อย่าเพิ่งใจเสียไปกันนะ เรายังสามารถเปลี่ยนร่าง เปลี่ยนหุ่นได้ เรามาลดน้ำหนัก ลดความอ้วน เพื่อให้เรามีร่างกายที่ดีที่สุดกันเถอะ

 

+เริ่มต้นด้วยความตั้งใจ วางเป้าหมายให้กับตัวเอง 

เพื่อนๆและสาวๆ ที่อยากลดน้ำหนักหรือลดความอ้วน อย่างจริงจัง ต้องเริ่มจากการที่เราตั้งใจ วางเป้าหมาย และเริ่มลงมือได้เลย เราอาจจะหาหุ่นที่เราชอบมาเป็นไอดอลหรือวางเป้าหมายที่เราอยากได้ โดยการวัดสัดส่วนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น วัดต้นแขน ต้นขา เอว สะโพก เป็นต้น และลงมือเลย

+ปรับมื้ออาหารด้วยการกินโปรตีนเป็นหลัก

เพื่อนๆและสาวๆ ที่ต้องการลดน้ำหนักหรือลดความอ้วน ต้องใส่ใจเรื่องการกินอาหารที่มีประโยชน์มากๆ ไม่ว่าจะเป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน ไขมันดี แต่สิ่งที่สำคัญมากในมื้ออาหารนั้นก็คือ โปรตีนที่ดี โปรตีนลีนๆ นั้นเอง เพราะว่ามันจะช่วยทำให้เราอิ่มได้นาน อยู่ท้องไม่หิวจุกจิกนั้นเอง

+หาของว่างที่มีประโยชน์กินระหว่างวัน 

เพื่อนๆและสาวๆ จะต้องหิวระหว่างวันอยู่แล้ว และสิ่งที่จะช่วยทำให้เพื่อนๆและสาวๆ คลายความหิวนั้นก็คือ การหาของว่างนั้นเอง แต่ว่าเพื่อนๆและสาวๆ ต้องหาของว่างที่มีประโยชน์นั้นเอง นั้นก็คือ ถั่วเปลือกแข็ง กรีกโยเกิร์ต กล้วย แอปเปิ้ล เป็นต้น มันจะช่วยทำให้เพื่อนๆและสาวๆ อยู่ท้องก่อนกินมื้อหลักนั้นเอง 

+ขยับตัว หรือ เคลื่อนไหวให้มากๆ 

เพื่อนๆ และสาวๆ ควรจะเคลื่อนไหวให้มากๆๆ หรือ ขยับตัวมากๆๆช่วยเรื่องการใช้พลังงานให้ในร่างกายให้มากขึ้นและการที่เราเคลื่อยไหวหรือขยับบ่อยๆ ก็จะเป็นการกระตุ้นระบบเผาผลาญได้อีกด้วยและยังทำให้ร่างกายสดชื่น ไม่เมื่อยล้าอีกด้วย 

+ดื่มน้ำเปล่า ให้เยอะ 

เพื่อนๆและสาวๆ ที่อยากผอมไวๆ การดื่มน้ำเปล่านี่ช่วยได้เยอะเลยนะ เพราะว่าการที่เราดื่มน้ำเปล่ามากๆ จะช่วยทำให้ระบบในร่างกายทำงานได้ดี และยังช่วยทำให้เราอิ่มนานและไม่หิวจุกจิกอีกด้วยนะ ไม่เชื่อเพื่อนๆ และสาวๆ ลองดื่มน้ำก่อนกินมื้อหลักดูสิ จะทำให้เพื่อนๆ และสาวๆ กินน้อยลงละ 

+ดื่มชาเขียว และ กาแฟดำ สิ

เพื่อนๆ และสาวๆ ดื่มกาแฟ และชาเขียว ไม่หวานไม่นม ไม่น้ำตาลดูสิ มันจะช่วยเรื่องการกระตุ้นระบบเผาผลาญได้ดีและทำให้เราหิวน้อยลงอีกด้วย

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  เครื่องช่วยฟังแบบชาร์จหรือใส่ถ่านดีกว่า

น้ำนมแม่ลดความเจ็บปวดให้ลูกได้จริง

เป็นที่ยอมรับกันทั่วว่า น้ำนมแม่ เป็น สารอาหารธรรมชาติที่ดีที่สุดสำหรับเด็กแรกเกิด โดยประกอบไปด้วย สารอาหารต่างๆ ยกตัวอย่างเช่นภูมิคุ้มกันโรค ฮอร์โมนตลอดจนสิ่งที่จำเป็นต้องให้ เด็กแรกเกิดสำหรับในการปกป้อง ความเจ็บไข้ได้ป่วยและก็ทำให้เด็กแรกเกิดมีวิวัฒนาการที่ดี มีการเติบโตอย่างแข็งแรงสมบูรณ์ แต่ว่าข้อมูลหนึ่ง ที่คนภายในสังคมโดยมากยัง ไม่ค่อยรับทราบหมายถึงนมแม่ช่วยลดความเจ็บให้ลูกได้

เป็นที่ยอมรับใน ด้านวิชาการมาเป็นระยะเวลานาน รวมทั้งมีการศึกษาค้นคว้า แล้วก็การันตีได้เป็น การให้นมแม่ เป็นขั้นตอนการที่ช่วยลดความเจ็บให้กับลูกได้อย่างมีประสิทธิภาพทุเลาความเจ็บจากหัตถการที่เกิดขึ้นอยู่กับเด็ก แล้วก็เสนอแนะว่า ในขณะการบรรเทาความเจ็บของลูกด้วยการดูด นมแม่จากเต้าเป็นโอกาสแรก หรือในเรื่องที่ไม่สามารถที่จะให้ลูกดูดนมแม่ จากเต้าได้ก็ควรจะให้นมบีบ ด้วยแนวทางอื่นๆยกตัวอย่างเช่น หลอดหยด กระบอกเอาไว้สำหรับฉีด ฯลฯ

ปัจจัยและคุณสมบัติพิเศษของการกินนมแม่ ที่ช่วยลดความเจ็บปวดให้ลูก

น้ำนมแม่ลดความเจ็บปวดให้ลูกได้จริง แนวทางการทำหัตถการต่างๆได้แก่ การเจาะเลือด การฉีดยาเป็นหัตถการที่ ก่อกำเนิดความเจ็บกะทันหัน โดยทั่วไปขณะที่ลูกได้รับหัตถการต่างๆพวกนี้ แม่จะถูกแยกหรือให้รออยู่หน้าห้องทำหัตถการ ซึ่งทำให้จังหวะที่ ช่วยลดความเจ็บปวดให้ลูกได้นั้น มีข้อมูลด้านการศึกษาที่ชัดเจนอยู่ 2 ใจความสำคัญ ดังนี้

รสชาติของนมแม่

ในน้ำนมมารดามีความหวานที่มาจากน้ำตาล lactose ซึ่งเป็นน้ำตาลโมเลกุลรวมกับ กับการจับกันของน้ำตาลโมเลกุลผู้เดียว เป็นต้นว่า monosaccharides galactose แล้วก็glucose โดยมีโดยประมาณ 6.8 กรัม/ดล.ในนมแม่รวมทั้ง 4.9 กรัม/ ดล. ในน้ำนมวัว

ซึ่งน้ำตาลกลุ่มนี้นอกเหนือจากที่จะช่วยสำหรับการดูดซับแคลเซียม และก็ช่วยในการพัฒนาระบบประสาทศูนย์กลางแล้วยังช่วยลดความเจ็บปวด ลงได้ โดยมีการทบทวนงานค้นคว้าวิจัยอย่างเป็น ระบบ ซึ่งทบทวน งานศึกษาค้นคว้าและการวิจัย 44 เรื่อง รวมทั้งงานที่เป็นการสังเคราะห์งานศึกษาค้นคว้าและการวิจัยอีก 12 เรื่อง ได้บทสรุปว่า สารละลายที่มีความหวานนั้นช่วยลดความเจ็บปวดในเด็กแรกคลอดเกิดก่อน กำหนดรวมทั้งเกิดครบกำหนดที่ได้รับการเจาะเลือดการเปิดเส้น

เพื่อสารน้ำทางเส้นเลือดดำ รวมทั้งการฉีดยา ซึ่งสอดคล้องกับการศึกษาเล่าเรียนของ Chah และก็แผนกที่ได้ทบทวนงานศึกษาค้นคว้าวิจัยเชิงทดสอบอย่างมีระบบจำนวน 11 เรื่อง

การอุ้มและการสัมผัสกับตัวลูก

การอุ้มแล้วก็การสัมผัสกับตัวลูก ในขณะแม่อุ้มลูกเป็นการช่วยสนับสนุนให้ลูกรู้สึกไม่เป็นอันตรายและรู้สึกอบอุ่น ด้วยเหตุว่าส่วนต่างๆของร่างกายได้รับการช่วยเหลือซึ่งการสัมผัสจะมี อิทธิพลโดยตรงต่อการกระตุ้นใยประสาทใหญ่ ก็เลยส่งผลให้ระบบ ควบคุมความเจ็บที่ระดับไขสันหลังปิดสัญญาณ ทำให้ไม่เกิดการรับรู้ความเจ็บปวดในขณะนั้น นอกจากนี้การที่ลูกอยู่ในอ้อมกอดของแม่ ทำให้ลูกผ่อนคลาย ปลอดภัยได้

 

สนับสนุนโดย  เครื่องช่วยฟังตัดเสียงรบกวน

วิธีที่สามารถทำให้ชีวิตของเรานั้นดีขึ้น 

การมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้นเป็นสิ่งหลาย ๆ คนนั้นต้องการ และมักที่จะเป็นความฝันของใครหลาย ๆ คนอีกด้วย เพราะถ้าหากเรามีชีวิตที่ดี การใช้ชีวิตไปในแต่ละวันของรั้นก็จะยิ่งดีไปด้วย แต่ทว่า การมีคุณภาพชีวิตของคนเรานั้นไม่ได้มีมากันตั้งแต่เกิดอย่างแน่นอน เพราะบางคนอาจเกิดมาพร้อมกับฐานะที่ร่ำรวย แต่ก็อาจทำให้ชีวิตไม่มีความสุขได้

วิธีที่สามารถทำให้ชีวิตของเรา ซึ่งการที่เราจะมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้นั้น ปัจจุบันนี้สามารถสร้างขึ้นมาได้ด้วยตนเอง ไม่ว่าจะเป็นทั้งในเรื่องของรูปร่าง สุขภาพร่างกาย รวมไปถึงความรู้สึกดี ๆ

ที่เราอยากมีก็ได้ เพราะสมัยนี้มีวิธีการมกามายที่สามารถช่วยใสร้างการมีคุณภาพชีวิตให้กับเราได้ อย่างไรก็ตาม สำหรับใครที่อยากมีสุขภาพร่างกายที่ดี รวมไปถึงการมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น เพื่อให้การใช้ชีวิตนั้นเต็มไปด้วยวามสุข วันนี้เราก็มีวิธีการดี ๆ มาแนะนำ สำหรับคนที่อยากใช้ชีวิตให้มีความสุข ซึ่งก็เป็นวิธีง่าย ๆ จะมีอะไรกันบ้างนั้นไปดูกันเลย 

การปล่อยวางและเลิกสนใจคนอื่น ส่วนใหญ่แล้วคนเรามักที่จะสนใจเกี่ยวกับคนพูดของคนอื่น แคร์คำพูดของคนอื่น ซึ่งเราก็ไม่สามารถที่จะไปบัคับใครให้เปลี่ยนความคิดได้ แต่ทั้งนี้เราก็สามารถปรับเปลี่ยนความคิดของตนเองได้ นั่นก็คือ การเลิกสนใจในคำพูดของคนอื่น การปล่อยวาง เลิกสนใจ ถ้าเขาจะพูดอะไรก็ปล่อยเขาไป ไม่ว่าจะเป็นคำพูดแย่ ๆ หรือแม้แต่คำตำหนิที่เราอาจได้ยินออกมาจากปากเขา หากเราอยากมีชีวิตที่ดียิ่งขึ้นนั้น ก็ไม่ควรไปสนใจ ถ้าปล่อยวางได้ก็ควรปล่อยวาง เพื่อที่เราจะได้ใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข รวมไปถึงการมสุขภาพจิตที่ดีอีกด้วย 

การยิ้มให้มากๆ เราเชื่อว่าการที่เรายิ้มเยอะ ๆ ไม่เครียด จะเป็นตัวช่วยหนึ่งที่สามารถทำให้เรามีคุณภาพชีวิตที่ดีมากยิ่งขึ้น เพราะถ้าหากเรามีใบหน้าที่สวยงาม แต่เราไม่ยิ้มแย้มแจ่มใสเลย ก็จะยิ่งทำให้เราเกิดความทุกข์ใจมากขึ้น ดังนั้น ถ้าหกเป็นไปได้ ก็ควรที่จะยิ้มเยอะ ๆ สดชื่นแจ่มใสเข้าไป ซึ่งนอกจากจะช่วยให้เรามีชีวิตที่ดีขึ้นได้แล้วนั้น ยังสามารถช่วยลดความแก่ และลดความเครียดได้อีกด้วย 

การมองโลกในความเป็นจริง เชื่อว่าคนส่วนใหญ่มักที่จะเอาตัวเองไปเปรียบกับชีวิตของคนอื่น ซึ่งรู้หรือไม่ว่าการที่เราเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่นนั้น จะยิ่งทำให้ชีวิตอขงเรานั้นดูแย่ลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปรียบเทียบหน้าตา รูปร่าง รวมไปถึงฐานะด้วย ยิ่งถ้าเรามีจุดด้อยกว่าคนอื่น แน่นอนว่าจะยิ่งทำให้คุณภาพชีวิตของเรานั้นไม่มีความสุขได้อย่างแน่นอน ดังนั้น ลองมองโลกในความเป็นจริง ลองใช้ชีวิตในแบบของเราให้มาก ๆ และไม่ต้องเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น รับรองได้เลยว่าคุณจะต้องมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้นได้อย่างแน่นอน 

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    หูตึงรักษาหายไหม

การวิจัยอาหารตามแฟชั่น

การวิจัยอาหารตามแฟชั่น ทำไมพวกเขาถึงให้ความนิยมเกี่ยวกับอาหารแฟชั่น สองปีสู่การระบาดใหญ่ที่คร่าชีวิตผู้คนในห้องนั่งเล่น สร้างการดูทีวีและการกินแบบเครียดนับไม่ถ้วน ประเทศมีปัญหาใหม่ที่ต้องกังวล: เกือบครึ่งหนึ่งของผู้ใหญ่ในสหรัฐฯ ซึ่งหลายคนจัดว่ามีน้ำหนักเกินแล้ว รายงานว่าพวกเขาเพิ่มน้ำหนักเกิน ปอนด์ การหันไปทานอาหารแฟชั่นหรือการล้างพิษอาจเป็นสิ่งที่ดึงดูดใจ

สำหรับผู้ที่มองหาวิธีแก้ไขอย่างรวดเร็วหรือการลดน้ำหนักที่ลดลงอย่างมาก แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าอย่ารับสายไซเรนของผลิตภัณฑ์ แอป และโฆษณาที่สัญญาว่าจะช่วยคุณกำจัดโรคระบาดในขณะที่ใช้ชีวิตที่ดีที่สุด หลีกเลี่ยงพวกมัน เพราะมันใช้ไม่ได้ผลและอาจต่อต้านการผลิตได้ Charlotte Markey ศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยาที่ Rutgers University ในแคมเดน รัฐนิวเจอร์ซีย์ กล่าว พวกเขาสามารถนำไปสู่การเพิ่มน้ำหนักไม่ใช่การลดน้ำหนัก

แม้ว่าการควบคุมอาหารตามแฟชั่นจะดูสมเหตุสมผล เช่น โดยเน้นที่การลดแคลอรี การวิจัยแสดงให้เห็นว่าผลลัพธ์สามารถขัดกับสัญชาตญาณได้

การวิจัยพบว่าการกินแคลอรี่น้อยลงสามารถนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนที่กระตุ้นความอยากอาหารและทำให้ผู้คนกระหายอาหารที่มีแคลอรีสูง แฟชั่นบางอย่างถึงกับตัดกลุ่มอาหารทั้งหมดออกไป เช่น ข้าวสาลี กลูเตนหรือผลิตภัณฑ์นม ซึ่งมีสารอาหารที่จำเป็นต่อสุขภาพที่ดี

แม้ว่า American Heart Association และองค์กรด้านสุขภาพอื่นๆ สนับสนุนการรักษาน้ำหนักให้แข็งแรง พวกเขาเน้นย้ำถึงความสำคัญของรูปแบบการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพมากกว่าแฟชั่นการรับประทานอาหารที่ทันสมัยหรือโปรแกรมลดน้ำหนักอย่างมาก รูปแบบการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพที่สนับสนุน    เครื่องช่วยฟังราคาเท่าไหร่    โดยการวิจัย ได้แก่ อาหารเมดิเตอร์เรเนียนและแนวทางการควบคุมอาหารเพื่อหยุดความดันโลหิตสูง หรือ DASH อาหารที่มีไขมันสัตว์ต่ำ มีไฟเบอร์สูงจากผลไม้ ผัก ถั่ว และธัญพืชเต็มเมล็ด และรวมถึงเนื้อไม่ติดมัน ปลา และสัตว์ปีกสำหรับ โปรตีน. รูปแบบเหล่านี้แสดงให้เห็นแล้วว่าปรับปรุงสุขภาพหัวใจและสมอง ลดอาการเจ็บป่วยเรื้อรัง และช่วยให้ผู้คนมีอายุยืนยาวขึ้น

แต่ถึงแม้จะมีหลักฐานที่ขัดแย้งกัน แต่การอดอาหารตามแฟชั่นยังคงเป็นที่นิยม นักวิจัยได้เริ่มสำรวจว่าทำไม เหตุผลหนึ่งก็คือคนที่ปฏิบัติตามอาหารเหล่านี้อาจมองว่าตนเองมีความรู้มากกว่าที่พวกเขาคิด คริสโตเฟอร์ กุสตาฟสัน รองศาสตราจารย์ภาควิชาเศรษฐศาสตร์เกษตรที่มหาวิทยาลัยเนแบรสกาในลินคอล์นกล่าว เขาร่วมเป็นผู้นำการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร Appetite เมื่อปีที่แล้ว

โดยวิเคราะห์แรงจูงใจของผู้คนที่รับประทานอาหารที่ปราศจากกลูเตนซึ่งไม่มีเหตุผลทางการแพทย์ที่ต้องทำ ตัวอย่างเช่น ผู้ที่เป็นโรค celiac ต้องเอากลูเตนออกจากอาหารเพราะอาจทำให้ลำไส้เล็กเสียหายได้ แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา อาหารที่ปราศจากกลูเตนได้รับความนิยมในหมู่ผู้ที่ไม่มีเหตุผลทางการแพทย์ที่จะหลีกเลี่ยงกลูเตน การวิจัยของ Gustafson พบว่าคนที่ไม่มีโรค celiac ซึ่งติดตามอาหารที่ปราศจากกลูเตนรับรู้ว่าพวกเขามีความรู้มากกว่าคนที่ไม่ได้ควบคุมอาหาร แม้ว่าการทดสอบความรู้ตามวัตถุประสงค์ของพวกเขาจะพบว่าไม่ใช่กรณีนี้

ผู้คนที่ควบคุมอาหารเชื่ออย่างผิด ๆ ว่ามันเป็นวิธีที่ดีต่อสุขภาพและเป็นวิธีที่จะช่วยให้พวกเขาลดน้ำหนักได้ ตัวทำนายที่ชัดเจนที่สุดของผู้ที่รับประทานอาหารประเภทนี้คือผู้ที่กล่าวว่าพวกเขาทำวิจัยด้วยตัวเอง แต่ไม่มีหลักฐานว่าอาหารตามแฟชั่นดีกว่าอาหารเพื่อสุขภาพที่ผ่านการทดสอบทางวิทยาศาสตร์ เช่น รูปแบบการกินที่ตามมาในอาหารเมดิเตอร์เรเนีย

การวิจัยของ Gustafson ไม่ได้มองว่าผู้คนได้รับข้อมูลมาจากที่ใด แต่การค้นหาข้อมูลด้านสุขภาพทางออนไลน์ซึ่งมีข้อมูลเท็จอยู่มากมาย กลายเป็นเรื่องธรรมดา โดยผู้ใหญ่ประมาณ 2 ใน 3 คนทำสิ่งนี้ ตามผลการศึกษาปี 2019 ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Public Health Reports และการศึกษาจำนวนมากได้สรุปว่าคุณภาพของข้อมูลด้านสุขภาพนั้นยังคงเป็นที่น่าสงสัย

ผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิดที่ผ่านมา

ในช่วงหลายเดือนแรกหลังการแพร่ระบาดสูงสุด นักศึกษาแพทย์ไม่สามารถกลับไปโรงพยาบาลหรือโรงเรียนแพทย์ได้ ชั้นเรียนทั้งหมดของเรา รวมถึงหลักสูตรภาคปฏิบัติ เช่น กายวิภาคศาสตร์ ถูกแปลงเป็นโหมดการจัดส่งออนไลน์ มีการสอบปลายภาคทางออนไลน์ด้วย ในฐานะนักศึกษาปริญญาโท ฉันรู้สึกกังวลเกี่ยวกับงานวิจัยของฉัน

ผู้ป่วยจำนวนมากที่ลงทะเบียนในการศึกษาไม่สามารถติดตามผลทางคลินิกได้เนื่องจากการควบคุมการแพร่ระบาดที่เข้มงวด นอกจากนี้ การทดลองในห้องปฏิบัติการของฉันยังถูกระงับเนื่องจากเวลาในการจัดส่งรีเอเจนต์นำเข้าที่ใช้กันทั่วไปใช้เวลานาน ฉันกังวลว่าการหยุดชะงักของการฝึกอบรมและการวิจัยทางคลินิกของเราอาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ร้ายแรง ไม่เพียงแต่เสียเวลาและเงินเท่านั้น แต่ยังทำให้สำเร็จการศึกษาล่าช้าอีกด้วย

ผลกระทบจากการระบาด แม้จะมีข้อเสนอของรัฐบาลในการ “ทำให้การป้องกันการแพร่ระบาดเป็นปกติ” แต่ก็ยังมีข้อกำหนดมากมายที่เราต้องปฏิบัติตามในชีวิตประจำวันของเรา

มีข้อกำหนดให้สวมหน้ากากอนามัยอย่างต่อเนื่อง และจำเป็นต้องลงทะเบียนเมื่อเข้าไปในสถานที่สาธารณะ เมื่อเดือนที่แล้ว ศูนย์ควบคุมโรคสั่งให้ฉันกักกันตัวที่บ้านให้ครบ 7 วันทันที เพราะมีผู้ติดเชื้อรายหนึ่งไปยิมก่อนที่ฉันจะไปเยี่ยมไม่นาน ในฐานะนักศึกษาแพทย์ในปักกิ่ง เราไม่ได้รับอนุญาตให้ออกจากเมือง เว้นแต่เราจะมี “เหตุผลจำเป็น” และได้รับการอนุมัติล่วงหน้า

(ซึ่งแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยในกรณีส่วนใหญ่) การห้ามนี้บังคับให้ฉันต้องยกเลิกการเดินทาง รวมถึงการเดินทางสามครั้งเพื่อนำเสนอผลงานด้วยปากเปล่าในการประชุมทางวิชาการในต่างประเทศ และอีกหนึ่งครั้งเพื่อไปร่วมงานแต่งงานของเพื่อนที่ดีที่สุดของฉัน

แม้กระทั่งตอนนี้ โรงพยาบาลของเราก็ยังต้องการให้เราดำเนินชีวิตแบบ “กิจวัตรสองจุด” ซึ่งหมายความว่าเราไม่สามารถไปไหนได้นอกจากบ้านและโรงพยาบาล/โรงเรียน โดยมีจุดประสงค์เพื่อป้องกันการติดเชื้อของบุคลากรทางการแพทย์และผู้ป่วยในโรงพยาบาล เราไม่สามารถทานอาหารนอกบ้าน

ในร้านอาหารหรือซื้อของในห้างสรรพสินค้าได้ ของใช้ประจำวันจะถูกส่งไปที่บ้านหรือโรงเรียนของเราทางไปรษณีย์ เช่นเดียวกับนกที่ถูกขังอยู่ในกรง เสรีภาพของเราถูกจำกัดอย่างรุนแรง วิถีชีวิตแบบนี้ช่างท้าทายยิ่งนัก ด้วยการใช้วัคซีนอย่างแพร่หลาย เราทุกคนหวังว่าชีวิตจะกลับมาเป็นปกติโดยเร็วที่สุด

เรียนแพทย์ที่ Beijing Children’s Hospital, Capital Medical University ประเทศจีน ระยะเวลาการศึกษาในมหาวิทยาลัยการแพทย์ ห้าปีสำหรับปริญญาตรีและอีกห้าปีสำหรับปริญญาเอก ปริญญาแพทยศาสตร์ระดับสูงแบ่งออกเป็นสองประเภท: ปริญญาทางคลินิกและวิชาการ แบบแรกเกี่ยวข้องกับการฝึกอบรมมาตรฐานบังคับเป็นเวลาสามปีสำหรับผู้อยู่อาศัย

ส่วนแบบหลังเกี่ยวข้องกับการทำวิจัยทางคลินิก ค่าเล่าเรียนรายปี US$1,000 สำหรับปริญญาตรี, US$1538 สำหรับระดับมัธยมปลาย ค่าเล่าเรียนอาจได้รับการยกเว้นบางส่วนหรือทั้งหมดขึ้นอยู่กับอันดับการสอบของนักเรียน ระดับปริญญาเอกเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับงานในโรงพยาบาลชั้นนำ

 

สนับสนุนโดย    เครื่องช่วยฟังขนาดเล็ก

ระดับกิจกรรมของคุณแม่อาจขึ้นอยู่กับจำนวนและอายุของเด็ก

คุณแม่น้อยกว่าครึ่งมีกิจกรรมทางกายระดับปานกลางถึงหนักถึงระดับที่แนะนำ และคุณแม่ที่มีลูกเล็กสามารถออกกำลังกายได้น้อยที่สุด นักวิจัยของเคมบริดจ์และเซาแธมป์ตันพบ การออกกำลังกาย โดยเฉพาะเมื่อมีความกระฉับกระเฉงปานกลาง มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย

ลดความเสี่ยงต่อโรคต่างๆ ตั้งแต่มะเร็งไปจนถึงเบาหวานชนิดที่ 2 และโรคหัวใจและหลอดเลือด อีกทั้งยังช่วยรักษาน้ำหนักให้แข็งแรงและสุขภาพจิตดีขึ้น หลักฐานบ่งชี้ว่ากิจกรรมทางกายสามารถช่วยให้ผู้ปกครองรับมือกับความท้าทายประจำวันของการเป็นพ่อแม่และเสริมสร้างความสัมพันธ์กับเด็กหากพวกเขาทำกิจกรรมร่วมกัน อย่างไรก็ตาม พ่อแม่มักจะกระตือรือร้นน้อยกว่าคนที่ไม่ใช่พ่อแม่

เพื่อตรวจสอบว่าองค์ประกอบของครอบครัวส่งผลต่อจำนวนกิจกรรมทางกายของมารดาอย่างไร นักวิจัยจาก University of Cambridge และ University of Southampton ได้วิเคราะห์ข้อมูลจากผู้หญิง 848 คนที่เข้าร่วมการสำรวจ UK Southampton Women’s Survey ผู้หญิงอายุ 20-34 ปี

ได้รับการคัดเลือกระหว่างปี 2541-2545 และติดตามผลในปีต่อๆ ไป พวกเขาได้รับเครื่องวัดความเร่งเพื่อประเมินระดับกิจกรรมของพวกเขา ผลลัพธ์ได้รับการเผยแพร่ในวันนี้ใน PLOS ONE ผู้หญิงที่มีลูกวัยเรียนทำกิจกรรมทางกายระดับปานกลางถึงหนักโดยเฉลี่ยประมาณ 26 นาที* ต่อวัน

ในขณะที่แม่ที่มีลูกอายุน้อยกว่า (อายุสี่ปีหรือต่ำกว่า) ทำได้ประมาณ 18 นาที* ต่อวัน การมีลูกมากกว่า 1 คนหมายความว่าคุณแม่สามารถออกกำลังกายระดับปานกลางถึงหนักได้ประมาณ 21 นาที* ต่อวัน แต่ที่น่าสนใจคือคุณแม่ที่มีลูกหลายคนอายุน้อยกว่า 5 ขวบทำกิจกรรมเบาๆ มากกว่าคุณแม่ที่มีลูกในวัยเรียน

มารดาน้อยกว่า 50% มีกิจกรรมทางกายระดับปานกลางถึงหนักถึงระดับที่แนะนำ (150 นาทีต่อสัปดาห์)

โดยไม่คำนึงถึงอายุของเด็ก Dr. Kathryn Hesketh จาก Medical Research Council (MRC) Epidemiology Unit at the University of Cambridge กล่าวว่า “เมื่อคุณมีลูกเล็ก ๆ ความรับผิดชอบของพ่อแม่จะกินเวลามาก และมักจะเป็นเรื่องยากที่จะหาเวลาทำกิจกรรมนอกเวลา ใช้เวลาดูแลลูก ๆ ของคุณ การออกกำลังกายจึงมักเป็นหนึ่งในสิ่งแรกที่ต้องตกข้างทาง ดังนั้น การออกกำลังกายส่วนใหญ่ที่คุณแม่ทำได้จึงดูเหมือนจะมีความเข้มข้นน้อยกว่า

อย่างไรก็ตาม เมื่อลูกไปโรงเรียน คุณแม่สามารถทำกิจกรรมทางกายได้มากขึ้น มีเหตุผลที่เป็นไปได้หลายประการที่อาจเป็นเช่นนี้ รวมถึงมีโอกาสมากขึ้นที่จะมีส่วนร่วมในกิจกรรมที่มีความเข้มข้นสูงกับลูก ๆ ของพวกเขา คุณสามารถกลับไปใช้การเดินทาง; หรือรู้สึกสบายใจขึ้นที่จะใช้เวลาอยู่คนเดียว” Rachel Simpson นักศึกษาระดับปริญญาเอกของ MRC Epidemiology Unit กล่าวเสริมว่า “มีประโยชน์ที่ชัดเจนทั้งในระยะสั้นและระยะยาวจากการออกกำลังกายมากขึ้น

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากทำให้อัตราการเต้นของหัวใจเพิ่มขึ้น แต่ความต้องการของการเป็นแม่ก็สามารถทำได้ มันยากที่จะหาเวลา เราจำเป็นต้องพิจารณาวิธีที่ไม่เพียงแต่จะกระตุ้นให้คุณแม่เท่านั้น แต่ยังต้องทำให้ง่ายที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้สำหรับคุณแม่ที่มีงานยุ่ง โดยเฉพาะผู้ที่มีลูกเล็กๆ ให้เพิ่มจำนวนการออกกำลังกายที่มีความเข้มข้นมากขึ้น”

ศาสตราจารย์ Keith Godfrey จาก MRC Lifecourse Epidemiology Center และ NIHR Southampton Biomedical Research Center กล่าวว่า “อาจไม่ใช่เรื่องที่คาดคิดมาก่อนว่ามารดาที่มีลูกเล็กหรือลูกหลายคนจะทำกิจกรรมทางกายที่รุนแรงน้อยกว่า แต่นี่เป็นการศึกษาชิ้นแรกที่วัดปริมาณ ความสำคัญของการลดลงนี้ การวางแผนของรัฐบาลท้องถิ่นและผู้ให้บริการสิ่งอำนวยความสะดวกด้านสันทนาการจำเป็นต้องทำมากกว่านี้ เพื่อสนับสนุนมารดาในการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางกาย”

 

สนับสนุนโดย    เครื่องช่วยฟังแบบชาร์จ

สารอาหารจำพวกโปรตีนและไขมันที่จำเป็น

โปรตีนเป็นสารอาหารหลักที่สำคัญที่ทุกเซลล์ในร่างกายต้องการ ช่วยสร้างและซ่อมแซมเซลล์และเนื้อเยื่อของร่างกาย รวมทั้งผิวหนัง ผม กล้ามเนื้อ และกระดูก โปรตีนมีความสำคัญต่อการแข็งตัวของเลือด

การตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกัน ฮอร์โมน และเอนไซม์ อาหารที่อุดมด้วยโปรตีนหลายชนิดยังมีแร่ธาตุในระดับสูง เช่น ธาตุเหล็ก แมกนีเซียม และสังกะสี โปรตีนเกิดขึ้นได้ทั้งในอาหารจากสัตว์และพืช แหล่งที่มาของสัตว์ ได้แก่ เนื้อสัตว์ ปลา และไข่ ถั่ว ถั่ว และถั่วเหลืองเป็นตัวเลือกโปรตีนสำหรับผู้ที่ทานอาหารมังสวิรัติหรือมังสวิรัติ

แนวปฏิบัติทั่วไปจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) แนะนำให้คนได้รับโปรตีน 50 กรัม (กรัม) ต่อวันจากอาหาร 2,000 แคลอรี ความต้องการโปรตีนส่วนบุคคลจะแตกต่างกันไป อย่างไรก็ตาม ขึ้นอยู่กับระดับกิจกรรมและน้ำหนักของบุคคล อาหารเพื่อสุขภาพควรประกอบด้วยอาหารที่มีโปรตีนหลายชนิด

เพิ่มเติมเกี่ยวกับอาหารที่มีโปรตีนสูงและแหล่งโปรตีนจากพืช ผลิตภัณฑ์นม ผลิตภัณฑ์จากนมสามารถเป็นแหล่งแคลเซียมที่ดีเยี่ยม

อาหารที่อุดมด้วยแคลเซียมช่วยให้กระดูกและฟันแข็งแรง ตามที่กระทรวงเกษตรของสหรัฐอเมริกา (USDA) กลุ่มผลิตภัณฑ์นมประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์นมเหลว อาหารที่ทำจากนมที่เก็บแคลเซียมไว้ เช่น โยเกิร์ตและชีส นมถั่วเหลืองเสริมแคลเซียมหรือเครื่องดื่มจากถั่วเหลือง อาหารจากนมที่ไม่เก็บแคลเซียม เช่น ครีม ครีมชีส และเนย ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของอาหารกลุ่มนี้ USDA แนะนำว่าผู้คนอาจต้องการผลิตภัณฑ์นม 2-3 ถ้วยต่อวัน มีการโต้เถียงกันว่าผลิตภัณฑ์นมดีหรือไม่ดีสำหรับคุณ

เลือกผลิตภัณฑ์นมที่มีไขมันต่ำหรือปราศจากไขมัน เช่น นมและโยเกิร์ต เพื่อประโยชน์ต่อสุขภาพหัวใจที่เชื่อถือได้ อย่างไรก็ตาม

การบริโภคผลิตภัณฑ์จากนมไม่จำเป็นต้องมีสุขภาพที่ดี ตราบใดที่ผู้คนได้รับสารอาหารที่จำเป็น เช่น แคลเซียม จากแหล่งที่ไม่ใช่นม ทางเลือกผลิตภัณฑ์จากนมอาจเป็นส่วนหนึ่งของอาหารเพื่อสุขภาพ ไขมัน ไขมันเป็นส่วนสำคัญของอาหารเพื่อสุขภาพ ไขมันมีความจำเป็นต่อการทำงานของระบบประสาท พลังงาน การดูดซึมวิตามินบางชนิด และสำหรับผิวหนัง ผม และสุขภาพข้อ ไขมันเกิดขึ้นได้

ทั้งในอาหารจากสัตว์และพืช ไขมันมีหลายประเภท และบางชนิดมีประโยชน์มากกว่าไขมันชนิดอื่นๆ ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวและไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อนเป็นไขมันที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพซึ่งช่วยเพิ่มสุขภาพของหัวใจ แหล่งที่ดี ได้แก่ อะโวคาโด ปลา ถั่ว เมล็ดพืช และมะกอกไขมันอิ่มตัวและไขมันทรานส์สามารถเพิ่มคอเลสเตอรอลรวมและไลโปโปรตีนความหนาแน่นต่ำ (LDL) หรือคอเลสเตอรอลที่ “ไม่ดี” ได้ LDL สามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจได้ ไขมันอิ่มตัวมักมาจากผลิตภัณฑ์จากสัตว์ เช่น ครีม เนื้อที่มีไขมัน

และอาหารทอด องค์การอาหารและยาแนะนำให้คนได้รับไขมัน 78 กรัมต่อวันในอาหาร 2,000 แคลอรี่  เครื่องช่วยฟังคนหูหนวก    ผู้คนควรตั้งเป้าหมายที่จะได้รับแคลอรี่น้อยกว่า 10% ต่อวันจากไขมันอิ่มตัว มีการรับประทานอย่างเหมาะสมช่วยทำให้ร่างกายนั้นมีความแข็งแรงและสามารถเจริญเติบโตได้อย่างเต็มที่

มาตรการการรายงานตนเอง

สินค้าคงคลังลักษณะของรัฐสำหรับความวิตกกังวลทางปัญญาและร่างกาย (STICSA) ประเมินลักษณะร่างกายและความรู้ความเข้าใจและความวิตกกังวลของรัฐในผู้เข้าร่วมทั้งหมด STICSA มีความน่าเชื่อถือและความถูกต้องที่ดีเป็นตัวชี้วัดสถานะและลักษณะความวิตกกังวลทางปัญญาและร่างกาย  

มาตรวัดผลกระทบเชิงบวกและเชิงลบ (PANAS) ใช้เพื่อประเมินอารมณ์ของผู้เข้าร่วมก่อน  มาตรการการรายงาน   และหลังการรักษาแบบสุ่ม PANAS มีความน่าเชื่อถือและความถูกต้องที่ดีและมีการใช้กันอย่างแพร่หลายในการศึกษาจำนวนมากเพื่อประเมินอารมณ์ 

การทดสอบการตั้งค่าดนตรีแบบสั้น (STOMP) ประเมินความชอบทางดนตรีของผู้เข้าร่วม STOMP มีความน่าเชื่อถือที่ดีและได้รับการตรวจสอบว่าเป็นการวัดความชอบทางดนตรีที่ดี  รูปแบบสั้นๆ ของ Eysenck Personality Questionnaire (EPQR) ประเมินลักษณะบุคลิกภาพของผู้เข้าร่วม โดยเฉพาะการเก็บตัว การแสดงตัว และอาการทางประสาท และมีความน่าเชื่อถือและความถูกต้องที่ดี 

เงื่อนไขการรักษา ลำดับของเพลงในสภาพดนตรีได้รับการจัดการโดยระบบแนะนำเพลงเกี่ยวกับอารมณ์ที่อธิบายไว้ในบทนำและปรับใช้โดย LUCID Research Application แอปพลิเคชันนี้เหมือนกับ “แอปพลิเคชัน LUCID Vibe” ที่มีจำหน่ายทั่วไป แต่ได้รับการกำหนดค่าเฉพาะเพื่อให้สามารถสุ่มเงื่อนไขการรักษาได้ ผู้เข้าร่วมทั้งหมดได้รับการรักษา 24 นาทีและทำตามขั้นตอนเดียวกันโดยไม่ขึ้นกับเงื่อนไขการทดลองที่ได้รับมอบหมาย ผู้เข้าร่วมได้รับการสุ่มให้เป็นหนึ่งในสี่เงื่อนไขการรักษา: รวมกัน

(ดนตรีที่มี ABS); เสียงเพลงอย่างเดียว, ABS อย่างเดียว หรือเสียงสีชมพู เสียงสีชมพูคือสัญญาณรบกวนที่ตามหลังการกระจายพลังงาน 1/f ในโดเมนความถี่ การศึกษาก่อนหน้านี้จำนวนมากเกี่ยวกับสิ่งเร้าทางหูได้ใช้เสียงสีชมพูเป็นตัวกระตุ้นการควบคุม [65–67] เสียงสีชมพูไม่ต่างจากสภาพเงียบมากนัก

ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในการใช้สภาวะเงียบเพื่อควบคุมคือผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากยาหลอก เนื่องจากเงื่อนไขอื่นๆ ทั้งหมดมีองค์ประกอบในการได้ยิน นอกจากนี้ ความได้เปรียบของสัญญาณรบกวนสีชมพูเป็นสภาวะควบคุมเมื่อเปรียบเทียบกับสภาวะเงียบคือช่วยควบคุมผลของยาหลอก เสียงสีชมพูถูกให้ในลักษณะเดียวกับสิ่งเร้าอื่นๆ โดยผู้ทดลองสามารถควบคุมตัวแปรนี้ได้

จากการศึกษาวิเคราะห์อภิมานครั้งก่อน เวลาในการรักษาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการลดความวิตกกังวลและการปรับปรุงความรู้ความเข้าใจสำหรับการกระตุ้นจังหวะการได้ยินและการบำบัดด้วยดนตรีอื่นๆ คือ 20-30 นาที เวลาเฉพาะของ 24 นาทีเกิดจากข้อจำกัดทางเทคนิคที่เกี่ยวข้องกับอัลกอริธึมการเรียนรู้เกี่ยวกับการจัดลำดับเพลงตามหลักการของ LUCID iso ขั้นตอน

การศึกษานี้ดำเนินการทางออนไลน์ และผู้เข้าร่วมการศึกษาได้เสร็จสิ้นการศึกษาที่บ้านของพวกเขา หลังจากยินยอมให้เข้าร่วมการศึกษา ผู้เข้าร่วมได้ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน LUCID Research บนอุปกรณ์ iOS ของตน จากนั้น ผู้เข้าร่วมทำแบบสำรวจก่อนการบำบัดซึ่งประกอบด้วยลักษณะ STICSA, แบบสอบถามบุคลิกภาพ Eysenck (EPQR), การทดสอบการตั้งค่าดนตรีแบบสั้น (STOMP), มาตราส่วนผลกระทบเชิงบวกและเชิงลบ (PANAS) และสถานะ STICSA ผู้เข้าร่วมฟังการรักษาที่ได้รับมอบหมายเป็นเวลา 24 นาที ผู้เข้าร่วมถูกขอให้ใช้หูฟังและหลับตาขณะฟังการบำบัดด้วยเสียง จากนั้น ผู้เข้าร่วมทำแบบสำรวจหลังการรักษาซึ่งประกอบด้วยรัฐ STICSA และ PANAS

 

สนับสนุนโดย.    เครื่องช่วยฟัง

อัพเดทภาวะลองโควิด ปัจจุบันนี้มีอะไรบ้าง

1-โรคเส้นเลือดในสมอง ที่อาจนำไปสู่การเป็น อัมพฤกษ์-อัมพาต

อัพเดทภาวะลองโควิด พบว่าปริมาณร้อยละ 6 ของคนเคยได้รับการติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 จะมีภาวะโรคเกี่ยวกับเส้นเลือดสมองตามมา โดยคนนั้นจะมีลักษณะอาการอ่อนเพลียหรือมีอาการชา รูปปากเบี้ยว ไม่สามารถสื่อสารได้ เกิดขึ้นอย่างกระทันหัน โดยชอบเกิดขึ้นข้างหลังมีลักษณะอาการทางการหายใจราว 10 วัน ซึ่งส่วนมากปัจจัยมาจาก เส้นโลหิตแดงในสมองตีบ จากระบบการแข็งของเลือดแตกต่างจากปกติจากการรับเชื้อไวรัส ทั้งนี้อาจจะมีเล็กน้อยที่ต้นเหตุมาจาก เส้นโลหิตสมองแตกรวมทั้งเส้นเลือดดำในสมองตันได้ ซึ่งจำนวนมากคนป่วยกลุ่มนี้มักแก่เกิน 60 ปี

แล้วก็มีสิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงของโรคเส้นเลือดสมองอยู่เดิม อย่าง ความดันเลือดสูง โรคเบาหวาน ไขมันในเลือดสูงแล้วก็เส้นเลือดไม่ปกติ การให้ยาละลายลิ่มเลือดจะช่วยคุ้มครองป้องกันเส้นโลหิตสมองตันในคนที่ติดเชื้อcovid-19  ซึ่งทั้งนี้ต้องติดตามอาการผู้ป่วยเป็นราย ๆ ไป

 2-เส้นประสาทอักเสบ 

อาการพบบ่อยในผู้ที่เจ็บป่วยที่มีลักษณะอาการทางระบบหายใจอย่างหนักจากการที่ได้รับการติดเชื้อ covid-19  โดยประมาณ 1 อาทิตย์ ผู้เจ็บป่วยจะมีลักษณะอาการอ่อนเปลี้ยเพลียแรงเพิ่มมากขึ้นอาจจะเริ่มจากขาสองข้างก่อน แล้วลุกลามมาที่แขน ซึ่งอาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีอาการชามร่วมด้วยได้ นอกจากนี้กับผู้ป่วยบางคนจะมีอาการกลืนอาหารได้ยากลำบากหรือมีปัญหาที่เส้นประสาทคู่ที่ 7 แตกต่างจากปกติ ทำให้ปากเบี้ยวร่วมด้วย หรือมีรายงานผู้เจ็บป่วยที่มาด้วยอาการเดินเซ เห็นภาพทับซ้อนได้เช่นเดียวกัน

สภาวะนี้สามารถนำมา ซึ่งความพิกลพิการได้ ด้วยเหตุดังกล่าวจะต้องได้รับการวิเคราะห์แล้วก็รักษาให้ทันการ โดยการวิเคราะห์สามารถใช้การตรวจกระแสไฟฟ้าของกล้ามแล้วก็เส้นประสาท การส่งไปตรวจน้ำไขสันหลัง ฯลฯ การดูแลและรักษาด้วยอิมมูโนโกลบูลิน พบว่าคนไข้ 12 ใน 15 รายมีลักษณะอาการดียิ่งขึ้น

3-สูญเสียการได้กลิ่น แล้วก็สูญเสียการรู้รส 

เป็นอาการที่พบได้ทั่วไปสูงถึงปริมาณร้อยละ 80 ในผู้เจ็บป่วยที่ติดโรคเชื้อไวรัส covid-19  ซึ่งต่างจากไข้หวัดใหญ่ ซึ่งเจอได้น้อยกว่า และก็นอกเหนือจากนี้ผู้ที่เคยได้รับเชื้อบางทีอาจไม่มีอาการทางระบบหายใจร่วมด้วยก็เป็นได้ ซึ่งเป็นลักษณะที่ค่อนข้างจะเฉพาะต่อเชื้อไวรัส covid-19  นี้

4- มีอาการปวดหัว หรือวิงเวียนหัวบ่อย ๆ หรือเกิดขึ้นง่าย

ในการศึกษาเรียนรู้ผู้เจ็บป่วยชาวอู่ฮั่น ในจีน จะเจอคนที่เคยได้รับเชื้อไวรัส covid-19  ที่มีลักษณะอาการปวดหัวจำนวนร้อยละ 13 รวมทั้งมึนหัวได้ถึงปริมาณร้อยละ 17 โดยลักษณะของการเกิดอาการปวดไม่สามารถบ่งบอกเฉพาะเจาะจงได้

อย่างไรก็ตามใครที่เคยติดเชื้อไวรัส covid-19  หากมีปัญหาลองโควิด ควรเข้ารับการตรวจสุขภาพโดยด่วนเพื่อ้องกันปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงในอนาคต

 

 

สนับสนุนโดย.    เครื่องช่วยฟังโรงพยาบาลรัฐ